Call Us +662 8188720 ถึง 3 | global@tappipe.com

QUALITY ASSURANCE

” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ท่อและอุปกรณ์ข้อต่อ HDPE คุณภาพสูง ของเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง
และช่วยเสริมความสมบูรณ์แบบให้แก่โครงการต่าง ๆ “

กุญแจแห่งความสำเร็จของเรา คือ ความเชื่อมั่นของลูกค้า ซึ่งคือเหตุผลว่าทำไม สินค้าภายใต้แบรนด์ และ OEM จึงได้รับการยอมรับจากวงการอุตสาหกรรมระบบท่อ HDPE ว่าเป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพ ที่ดีที่สุดรายหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการส่งออกไปต่างประเทศ มากกว่า 15 ประเทศ

การทดสอบการทนต่อแรงดึง

การทดสอบแรงดันน้ำ

การทดสอบการเปลี่ยนแปลงความยาวท่อ

การทดสอบเสถียรภาพการทนความร้อน

การทดสอบอัตราการไหลเมื่อหลอมเหลว

การทดสอบหาจุดบกพร่องในผลิตภัณฑ์

คลิกรูปเพื่อดูรายละเอียดด้านล่าง

การทดสอบการทนต่อแรงดึง  (Tension test)

การทดสอบแรงดึงด้วยเครื่องทดสอบ Universal Testing Machine (UTM) เป็นการทดสอบสมบัติเชิงกลขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งของการควบคุมคุณภาพเม็ดวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ท่อ HDPE หรือแม้กระทั่งเป็นการทดสอบเพื่อยืนยันความแข็งแรงของแนวเชื่อมท่อ วิธีการทดสอบเป็นไปตามมาตรฐานสากล อาทิเช่น ASTM D 628 และ ISO 527-2  สำหรับวัสดุพลาสติก  ISO 6259 การทดสอบแรงดึงท่อ และ  ISO 13953 การทดสอบแนวเชื่อมท่อ HDPE เป็นต้น ข้อมูลต่างๆ ที่มีประโยชน์จากการทดสอบคือ

  • ค่าความต้านแรงดึง ณ จุดคราก (Tensile strength at yield)
  • ค่าความต้านแรงดึง ณ จุดขาด (Tensile strength at break)
  • ค่าเปอร์เซ็นต์ความยืดเมื่อขาด (% Elongation at break)

การทดสอบแรงดันน้ำ  (Internal pressure creeping test)

การทดสอบความทนความดันภายในท่อ HDPE ด้วยเครื่องทดสอบ Hydrostatic Testing Machine เป็นการทดสอบสมบัติเชิงกลที่สำคัญมากที่ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในคุณภาพสินค้า เนื่องจากการทดสอบนี้เป็นการพิสูจน์ถึงคุณภาพของท่อ HDPE  ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสากลต่างๆ ที่ใช้อ้างอิงกระบวนการผลิต เช่น TIS 982, ISO 4427, BS EN 12201, AS/NZS 4130 และ DIN 8074/75 เป็นต้น การทดสอบท่อจะควบคุมแรงดันภายในท่อและอุณหภูมิคงที่ค่าหนึ่ง โดยระหว่างการทดสอบท่อจะต้องไม่แตก รั่ว หรือร้าว ภายในระยะเวลาที่กำหนด

การทดสอบการเปลี่ยนแปลงความยาวท่อ (Longitudinal reversion test)

การทดสอบการเปลี่ยนแปลงของความยาวของท่อ HDPE ด้วยถังน้ำมันกลีเซอลีน ถือเป็นการทดสอบสมบัติการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ หรือความทนทานต่อสภาพการใช้งานซึ่งทำให้เกิดการหดตัวและขยายตัวตามแนวยาวท่อภายใต้สภาวะของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ  วิธีการทดสอบเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 2505 โดยท่อจะถูกให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงถึง 110 oC เป็นเวลานาน 30 นาที หลังจากนั้นจะทำการวัดความยาวของท่อทดสอบอีกครั้ง ซึ่งเมื่อคำนวณค่าความยาวภายหลังการทดสอบจะต้องเปลี่ยนแปลงไปไม่เกินร้อยละ 3

การทดสอบเสถียรภาพการทนความร้อน (Oxidation Induction Time)

การทดสอบเสถียรภาพการทนความร้อนหรือ Oxidation Induction Time (OIT) ด้วยเครื่องทดสอบ Differential Scanning Calorimeter (DSC) เป็นการทดสอบสมบัติทางความร้อนเบื้องต้นในการป้องกันการเปิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของท่อ HDPE ซึ่งถือเป็นการบ่งบอกอย่างง่ายถึงอายุการใช้งาน และความคงทนต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ เมื่อนำท่อไปใช้งานจริง วิธีการทดสอบตามมาตรฐาน ISO 11357 หรือ ISO/TR 10837 ที่อุณหภูมิ 200 หรือ 210 oC โดยที่ OIT ต้องไม่น้อยกว่า 20 นาที

การทดสอบอัตราการไหลเมื่อหลอมเหลว (Melt Flow Rate)

การทดสอบอัตราการไหลเมื่อหลอมเหลว Melt flow rate (MFR) ด้วยเครื่องทดสอบ Melt flow indexer วิธีการทดสอบตาม ISO 1133 เป็นการทดสอบสมบัติทางความร้อนของพลาสติก ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมการไหลเมื่อได้รับความร้อนของเม็ดวัตถุดิบเพื่อใช้พิจารณาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการผลิต เพื่อการควบคุมคุณภาพเม็ดวัตถุดิบซึ่งหากค่า MFR อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสามารถบ่งบอกถึงความสม่ำเสมอและคุณภาพที่ดีของวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในกระบวนการผลิตได้ และการทดสอบผลิตภัณฑ์ท่อ HDPE สามารถบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งจะทำให้ได้ท่อที่มีคุณภาพ คงทนแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น

การทดสอบหาจุดบกพร่องในผลิตภัณฑ์ (Ultrasonic flaw testing)

การทดสอบหาจุดบกพร่องในผลิตภัณฑ์ท่อและอุปกรณ์ ด้วยเครื่องทดสอบ Ultrasonic Tester

Call to Discuss: ลูกค้าสามารถติดต่อขอรับบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่